ที่อยู่อาศัยแห่งอนาคต เพื่อความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตกับรถยนต์ไฟฟ้า



       
     จากกระแสการจองรถยนต์ไฟฟ้าอย่างล้นหลามในช่วง Q4 ของปี 2023 ที่ผ่านมา เชื่อว่าหลายคนที่กำลังรอรับรถอยู่อาจยังไม่ทราบว่า การมีบ้านที่เหมาะสมสำหรับการใช้รถยนต์ไฟฟ้ามีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากมีผลทั้งต่อการใช้งานรถยนต์และการบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าของบ้านไปพร้อมๆ กัน การทิ่เรามีบ้านที่ได้รับการออกแบบและอัพเกรดอย่างเหมาะสมจะสามารถช่วยให้การใช้งานรถยนต์ไฟฟ้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งยังปลอดภัยต่อระบบไฟฟ้าของบ้าน นำมาซึ่งความปลอดภัยของคนในครอบครัวอีกด้วย

          บ้านที่เหมาะกับการใช้งานรถยนต์ไฟฟ้า ควรมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย
  1. ระบบไฟฟ้าที่บ้าน ควรมีการอัพเกรดมิเตอร์ไฟฟ้าที่เพียงพอสำหรับการใช้งาน EV Charger โดยมาตรฐานขนาดมิเตอร์ที่ทางการไฟฟ้าฯ แนะนำ คือ Single-Phase 30(100)A หรือ 3-Phase 15(45)A
  2. สายไฟเมน หรือสายไฟที่เชื่อมระหว่างมิเตอร์กับตู้ควบคุมไฟฟ้า ควรเปลี่ยนให้เป็นสายไฟทองแดงขนาด 25 sq.mm. ซึ่งเป็นขนาดที่เหมาะสมที่การไฟฟ้าฯ แนะนำ
  3. ตู้ควบคุมไฟฟ้า ควรมีการแยกช่องจ่ายไฟต่างหากสำหรับ EV Charger เพื่อป้องกันไฟกระชากที่จะทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดอื่นเกิดความเสียหายได้
  4. ติดตั้งจุด EV Charger ที่ใช้งานได้ง่าย (ระยะห่างจากจุดชาร์จถึงรถยนต์ไม่ควรเกิน 5 เมตร) ที่จอดรถควรมีร่มหรืออยู่ในที่ร่มเพื่อช่วยป้องกันอันตรายจากสภาพอากาศ และรักษาประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ในรถยนต์ไฟฟ้าให้อยู่ได้นานขึ้น
  5. ติดตั้งระบบตัดไฟฟ้ารั่ว (RCD) ซึ่งจะทำหน้าที่ตัดวงจรเมื่อพบว่าค่ากระแสไฟฟ้าไหลเข้าและไหลออกไม่เท่ากัน เพื่อช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่เกิดจากไฟฟ้ารั่ว
 
โดยบ้านเดี่ยวจาก PEACE ได้เห็นถึงความสำคัญและออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการรถ EV ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องดังที่กล่าวข้างต้น

นัดเยี่ยมชมโครงการ
CHEREA VICINITY ราชพฤกษ์ – เจษฎาบดินทร์
โทร. 097-282-2256
CHERENE กรุงเทพกรีฑา – ร่มเกล้า
โทร. 089-202-7838


FAQ

1.) จะรู้ได้อย่างไรว่าควรใช้เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเท่าไหร่ 
= สามารถหาเครื่องชาร์จที่เหมาะกับการใช้งานของรถได้โดยดูจากขนาดของ on-board charger (หน่วย kW) ของรถยนต์ของคุณ ตัวอย่างเช่น on-board charger = 7.2 kW >> ควรเลือกใช้เครื่องชาร์จขนาด 7.4 kW (เพราะหากซื้อขนาด kW ที่มากกว่า 7.4 นั้นก็จะไม่สามารถชาร์จได้เร็วขึ้น เนื่องจากความเร็วในการชาร์จขึ้นอยู่กับ on-board charger]
แต่ถ้าหากในอนาคตคุณมีแผนที่จะซื้อรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% [on-board charger มากกว่า 11 kW ขึ้นไป ] ควรซื้อเครื่องชาร์จรุ่น 22 kW เนื่องจาก
  • การเดินสายไฟของเครื่องชาร์จเป็นแบบไฟ 3 เฟส ขนาดสายไฟรองรับการจ่ายไฟในกระแสสูงๆ ได้
  • ประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินสายไฟใหม่
  • ในอนาคตขนาด on-board ของรถยนต์ไฟฟ้าจะถูกพัฒนาให้มีขนาดใหญ่มากขึ้น เพื่อให้สามารถชาร์จไฟใส่แบตเตอรี่ที่ขนาดใหญ่ได้เต็มเร็วมากขึ้น
2.)  บ้านเดี่ยวของ PEACE จะรองรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่ขึ้นได้หรือไม่
= ได้ เนื่องจากระบบไฟฟ้ารองรับไฟ 3 เฟส (3-Phase 15(45)A)
 
3.)  หากต้องการเพิ่มขนาดมิเตอร์จะต้องทำอะไรบ้าง และมีค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่?
=
ขั้นตอนการขอเปลี่ยนมิเตอร์ไฟฟ้ามีดังนี้
1. ติดต่อไปที่ผู้ให้บริการไฟฟ้าที่รับผิดชอบในเขตพื้นที่ของท่าน
2. ติดต่อช่างไฟฟ้าในอาคารที่ท่านให้ความไว้ใจเพื่อดำเนินการปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับการใช้ไฟในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า
3. ทางการไฟฟ้าจะมาตรวจสอบเพื่ออนุมัติการเปลี่ยนมิเตอร์ไฟฟ้าให้ท่าน
 
แนวทางในการปรับเปลี่ยนเพื่อรองรับการใช้รถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน
มาตรฐานของการเปลี่ยนมิเตอร์ตามที่ MEA กำหนดมีดังนี้
1. การเดินสายไฟจากมิเตอร์ มายังแผงควบคุมวงจร (ค่าใช้จ่ายในการเดินสายไฟจะตามระยะทางจากมิเตอร์มายังแผงควบคุมวงจรหลัก)
2. การเปลี่ยนขนาดของตู้ main breaker (หากขนาดตู้ในปัจจุบันไม่เพียงพอต่อการรองรับ breaker ย่อยที่จะเพิ่มขึ้น)
3. การเพิ่มขนาดของสายดิน
4. ติดตั้งเต้ารับ 3 ขา (ตามมาตรฐานของ กฟน. จำเป็นจะต้องติดตั้ง หากมีการติดตั้งอยู่แล้วก็จะไม่มีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้)
ราคาค่าบริการในการเตรียมการเปลี่ยนมิเตอร์ (ราคาที่แสดงนี้คือราคาประมาณการจากผู้ให้บริการที่การไฟฟ้าแนะนำ)
1. สำหรับ เปลี่ยนมิเตอร์จาก 1 เฟส 15/45 เป็น 30/100 ราคาประมาณ 30,000 - 40,000 บาท (ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการทำงานและค่าอุปกรณ์)
2. สำหรับ เปลี่ยนจาก 1 เฟส เป็น 3 เฟส ค่าใช้จ่ายประมาณ 60,000 บาท ขึ้นไป